วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565


 "ฝึกจิตแผ่บุญ" เวลาเราคิดไปที่ไหน กระแสก็จะไปอยู่ที่นั่น คิดไปที่หลวงปู่ กระแสก็จะอยู่ในพลังงาน เบื้องต้นให้รู้จักเบนกระแสให้ได้ก่อน สวดให้อารมณ์ดีก่อน เบนกระแสที่ไม่ดีให้ได้ก่อน ภาวนาไปเรื่อยให้กระแสจิตของเราไปเป็นหนึ่งเดียวกับคำภาวนา ให้กระแสของเราอยู่ในบทสวดให้ได้ก่อน ที่สำคัญต้องอยู่ในกระแส ให้จิตไปอยู่กับบทจักรพรรดิหรือไตรสรณคมน์ก็จะทำให้เกิดความหนาแน่นของพลังงาน

เน้นที่ความนิ่ง ความนิ่งทำให้เกิดความสบาย จิตตรงนี้แหละที่จิตจะบันทึก ทำไปเรื่อยทรงอารมณ์แบบนี้ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี มันต้องมีสมาธิ จิตถึงจะบันทึกได้ มันต้องนิ่งๆ ต้องสบายๆ จิตก็จะบันทึก ลองคิดดูถ้าทำหลายๆ ปี จิตจะสุขแค่ไหน..นี่แหละ คือ กำลัง..หละ
เวลาเราสวดจักรพรรดิ เราสามารถสวดมนต์ไปแล้วก็นึกถึงเรื่องธุรกิจการงานไปด้วยก็ได้ คิดไปสวดไปพร้อมๆ กัน ตอนกลางคืนก็พยายามสวดจนหลับให้จิตติดกระแสบุญไปก็จะไม่ฝันร้าย เพราะความฝันบางครั้งนั้นเป็นกระแสในอดีต ถ้ากระแสในอดีตไม่ดีก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้ เช่น เวลาฝันว่าวิ่ง ตื่นขึ้นมามันก็เหนื่อย แสดงว่าแม้จิตฝันมันก็ออกที่ธาตุ ถ้าภาวนาให้ได้ก่อนนอนนานเข้าก็จะไม่ฝันร้าย เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ กระแสกรรมที่ไม่ดีก็มาทำอะไรเราไม่ได้
จิตที่เราฝันกับธาตุที่เรานอนมันเป็นสายใยกัน อาการที่ฝันมันก็ออกธาตุ แต่มันแค่ครึ่งเดียวแต่ก็รู้สึกอยู่
จิตของเราไม่เคยพักเลยตั้งแต่เกิดมา จิตจะพักก็แค่ตอนที่เรานั่งสมาธิจนนิ่งเท่านั้น
การแผ่บุญแค่นึกก็ไปแล้ว เพียงมีกระแส ภพทั้ง ๓ มันสื่อกับมนุษย์ แม้แต่โพธิสัตว์ จะสร้างบารมีก็ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์มีทั้งกายและใจ เราเป็นมนุษย์เรามีการสะสมบุญบารมีไว้ เราก็สามารถแผ่บุญไปให้ทั้ง ๓ แดนโลกธาตุได้ แต่เมื่อใดถ้าตายไป บุญที่เรามีทั้งหมดก็ไม่สามารถให้ผู้ใดได้แล้ว
เอ็งเกิดมาต้องตายอยู่แล้ว..ต้องตายแน่ๆ หลวงปู่ให้เตรียมตัวตาย อยากจะไปไหนให้ฝึกไว้จนชิน พอจะตายถ้าจิตติดที่อารมณ์ที่ดี ตามที่เคยฝึกไว้ก่อนตายก็โอเค จบ ตายอย่างสงบ
ช่วยกันแชร์คนละ 1 แชร์ เป็นการแจกจ่ายธรรมทาน ให้กับเพื่อนมนุษ ได้อานิสงส์เช่นเดียวกับพิมพ์หนังสือธรรมะ หากมีใครสักคนนำไปทำตามเราก็ได้บุญด้วย
บางส่วนของคติธรรมคำสอนโดย... พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ)
(ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ที่หลวงปู่เมตตาสอนสาสตร์พุทธภูมิให้กับท่าน )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น