วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2565

Superbrain Yoga

 Superbrain Yoga หรือโยคะบำรุงสมอง นั้นเป็นท่าบริหารแบบง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ ไม่ต้องกลัวต้องเล่นท่ายากแบบฤาษีดัดตนแต่อย่างใด เน้นใช้พัฒนาสุขภาพจิตและความคิดในแง่มุมต่างๆ เช่น ทำให้มีสมาธิจดจ่อมากยิ่งขึ้น ถึงจะยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มารับรอง ว่า superbrain yoga นั้นเห็นผลจริงหรือไม่ เพราะอะไร แต่หลายคนที่เอาไปลองใช้จริงก็ว่าเห็นผลดี โดยเฉพาะกับเด็กและวัยรุ่นที่เป็นไฮเปอร์ (hyperactive) เด็กออทิสติก เด็กสมาธิสั้น และผู้สูงอายุที่สมองเสื่อม Superbrain yoga ถือเป็นกิจกรรมง่ายๆ เช่น จับหู ทำท่าสควอท แค่ทำให้ถูกขั้นตอนและสม่ำเสมอ ก็ดีต่อสมองแน่นอน

ส่วน1
เตรียมตัว

  1. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 1
    1
    หันหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องตามอายุ. หลายคนที่ทำ superbrain yoga เชื่อว่าทิศทางที่คุณหันหน้าไป จะส่งผลถึงพลังงานและสมาธิของคุณ คนส่วนใหญ่ที่ทำ superbrain yoga แนะนำให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุ ให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ[1]
    • ถ้าไม่แน่ใจว่าทิศไหนเป็นทิศไหน ลองหาเข็มทิศมาใช้ตอนทำ superbrain yoga ดู เดี๋ยวนี้ในสมาร์ทโฟนบางเครื่องเองก็มีแอพเข็มทิศให้ใช้กัน ถ้าไม่มีลองไปดาวน์โหลดมาใช้ดู (แอพ compass)
  2. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 2
    2
    ถอดเครื่องประดับออกให้หมด. Superbrain yoga เป็นการบริหารที่ต้องใช้สมาธิจดจ่อเป็นอย่างมาก ก่อนจะเริ่มทำ superbrain yoga ให้ถอดเครื่องประดับที่ใส่อยู่ออกทั้งหมด[2]
    • บางคนอาจจะลังเล รู้สึกไม่ดีถ้าต้องถอดแหวนแต่งงาน/แหวนหมั้นออก อันนี้ถึงเราจะบอกว่า superbrain yoga ควรทำแบบสบายๆ ไม่มีอะไรมาเกะกะรบกวนถึงจะเห็นผลดี แต่แหวนก็เป็นเครื่องประดับเล็กๆ ไม่น่าจะส่งผลเท่าไหร่ ใครไม่สบายใจจะใส่ไว้ก็ตามสะดวก
  3. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 3
    3
    ยืนตัวตรง. Superbrain yoga จะเห็นผลสุดถ้าทำด้วยท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสม เพราะงั้นขั้นแรกคือต้องยืนตัวตรงเป๊ะในห้องเงียบสงบซะก่อน[3]
    • จะแน่ใจได้ว่ายืนตัวตรง ให้ยืดหัวและหลังขึ้นข้างบน เหยียดลำตัวทั้งหน้าหลังและกระดูกสันหลังให้ยืดออก อกผายไหล่ผึ่ง เท้าราบไปกับพื้น[4]

ส่วน2
เริ่มบริหาร

  1. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 4
    1
    เอาลิ้นดุนเพดานปาก. ให้เริ่มบริหารโดยจัดตำแหน่งลิ้นให้ถูกต้อง ระหว่างทำ superbrain yoga ต้องดุนลิ้นไว้ที่เพดานปาก หลังฟันเสมอ เป็นตำแหน่งเดียวกับที่ลิ้นควรอยู่เวลาจะพูดคำว่า "ลา" ย้ำว่าให้ดุนลิ้นไว้ที่เดิมตลอดการฝึก[5]
  2. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 5
    2
    เอามือซ้ายแตะติ่งหูขวา. ไขว้แขนซ้ายพาดลำตัวท่อนบน ไปจับติ่งหูขวาด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ โดยที่นิ้วโป้งต้องอยู่ด้านหน้า[6]
  3. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 6
    3
    เอามือขวาแตะติ่งหูซ้าย. คราวนี้ไขว้แขนขวาพาดลำตัวท่อนบน ไปจับติ่งหูซ้ายด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ และเหมือนกับมือซ้าย คือนิ้วโป้งต้องอยู่ด้านหน้า[7]
  4. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 7
    4
    หายใจเข้าและออกพร้อมย่อเข่า. งอเข่าย่อตัวลงไปหาพื้น ระหว่างนั้นให้หายใจเข้าทางจมูก แล้วหายใจออกตอนยืดตัวกลับขึ้นมา[8]
  5. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 8
    5
    ทำซ้ำ 15 - 21 ครั้ง. พอสควอทแล้ว 1 ครั้ง ให้ทำต่ออีก 15 - 21 ครั้ง พยายามทำซ้ำในจำนวนครั้งที่สบายๆ ไม่ฝืนเกินไป ย้ำว่าหลังต้องตรง และลิ้นดุนเพดานปากไว้ตลอดการบริหาร[9]

ส่วน3
ทำ Superbrain Yoga ให้เป็นประจำ

  1. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 9
    1
    ฝึกเรื่อยๆ. จะทุกวันหรือเกือบทุกวันก็ได้ ขอแค่บริหาร superbrain yoga แบบนี้เป็นประจำ รับรองเห็นผล 2 - 3 ครั้งแรกที่คุณเริ่มบริหาร อาจจะไม่ค่อยเห็นความต่างเท่าไหร่ ทั้งในเรื่องความคิดและสมาธิจดจ่อ แต่บอกเลยว่าถ้าพยายามทำให้ได้ทุกวัน สุดท้ายจะรู้สึกได้เลยว่าตัวเองสมาธิดีขึ้น รวมถึงเรียนรู้และเข้าใจอะไรได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด[10]
    • แต่ต้องย้ำกันอีกทีว่าเรื่องนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วจะพัฒนาสมาธิและความคิดด้วย superbrain yoga ได้แบบเห็นความแตกต่างชัดเจน
  2. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 10
    2
    หามุมสงบไว้ฝึก. ถ้าอยากทำ superbrain yoga ฝึกสมองเป็นประจำ ก็ต้องจัดเตรียมพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนโดยเฉพาะ เลือกมุมสงบสักมุมในบ้าน ห่างไกลจากสิ่งเร้าสิ่งรบกวน ห้องที่แนะนำก็เช่น ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่นที่ไม่มีทีวี ส่วนใหญ่คนจะนิยมฝึกสมองกันช่วงเช้า เพราะงั้นพยายามเลือกมุมที่สว่างหน่อย รับแดดอ่อนๆ ยามเช้า[11]
  3. ตั้งชื่อภาพ Do Superbrain Yoga Step 11
    3
    พักเป็นระยะ. ไม่ว่าโยคะชนิดไหนก็เน้นการผ่อนคลาย เพราะงั้นถ้าฝึก superbrain yoga เยอะจนเริ่มเครียด ก็หาวันพักบ้าง superbrain yoga ควรทำให้คุณผ่อนคลายสบายใจมากกว่าจะกลายมาเป็นอีกกิจวัตรบังคับ ถ้าทำแล้วเครียด ก็หยุดพักไปชาร์จแบตให้ตัวเองก่อนดีกว่า[12]